ไพ่เก้าเก เกมเดิมพันออนไลน์ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวสำหรับ เกมไพ่เก้าเก หรือ Gao Gae ซึ่งจะเป็นเกมการเดิมพันที่เล่นได้ไม่ยาก สะดวกรวดเร็วใน เก้าเกออนไลน์ โดยจะเล่นกับตัวอวตารเกมส์ของผู้เล่นที่สามารถเข้ามาร่วมสนุกและเล่นเกมส์ เก้าเกไทย ออนไลน์ ได้หลายคน โดยรูปแบบของการเล่นจะเป็นการวัดไพ่ที่มีแต้มสูงที่สุดนั่นก็คือ 9 แล้วหลังจากนั้นใช้การเกทับไพ่ของฝั่งตรงข้าม เพื่อที่จะเพิ่มเงินเดิมพัน โดยฝั่งที่มีไพ่แต้มน้อยกว่าสามารถที่จะหมอบได้ ซึ่งก็จะถือว่าหมดสิทธิ์การพนันเงินกองกลาง ซึ่งการเกมส์ เก้าเก นั้นแต่ละคนก็จะมี เทคนิค เก้าเก ที่ แตกต่างกันไป เชิญมาร่วมสนุกด้วยกันที่ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ WEBTONG
คำศัพท์ควรรู้ก่อนเล่น เก้าเกไทย ออนไลน์
- หมอบ – ให้ทำการคว่ำไพ่ไว้ที่ด้านหน้า โดยผู้เล่นที่หมอบจะต้องไม่เล่นในรอบนี้ต่อแล้ว แต่จะเสียเงินกองกลางที่ได้วางไว้ในตอนต้น
- ผ่าน – เป็นกรณีที่ผู้เล่นทั้งหมดไม่ได้เดิมพัน สามารถที่จะเลือก ผ่านได้
- เดิมพัน – เป็นกรณีที่ผู้เล่นทั้งหมดก็ไม่ได้เดิมพัน สามารถที่จะเลือกเดิมพัน ซึ่งจะต้องทำการเดิมพันที่ห้ามต่ำกว่ายอดของการวางพนัน
- ตาม – ให้ทำการวางเดิมพันจนเท่ากับคนที่วางก่อนหน้า
- เกทับ – หลังจากที่วางเดิมพันตามแล้ว สามารถที่จะวางเดิมพันเพิ่มได้ โดยผู้เล่นคนต่อไปต้องเลือก เกทับ หรือหมอบตาบ
- แทงทั้งหมด – เป็นการวางเดิมพันทั้งหมดที่เหลือของผู้เล่น ผู้เล่นที่เลือกหมดหน้าตัดให้ทำการรอเทียบไพ่ เมื่อไม่มีผู้เล่นเพิ่มยอดเดิมพันยกเว้นผู้เล่นที่ทำการหมอบให้ ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องทำการเทียบไพ่เพื่อที่จะวัดผลแพ้ชนะ
วิธีเล่น เก้าเกไทย ออนไลน์
ตัวเลขจะมีค่าตรงตามเลขนั้นๆ ยกเว้น 10 J Q K นับเป็น 0 ส่วน A นับเป็น 1 แต้ม ส่วนแต้มที่มากที่สุดคือ เก้าแต้ม แต่ก็ยังมี แต้มพิเศษที่เหนือกว่าคือ แต้มพิเศษ เช่น สี เซียน เรียง ตอง และ เรียงสี ตามลำดับ จากน้อยไปมากหรือจะเป็นสีซึ่งหมายถึง ไพ่เก้าเก ในมือทั้งสามใบเป็นไพ่ ดอกเดียวกัน จะเหนือกว่าเก้าแต้ม ส่วนเซียนหมายถึงไพ่สามใบเป็นไพ่ในกลุ่ม J Q K ซึ่งทั้งสามใบเหนือกว่า เก้าแต้มสี และเรียง เมื่อผู้เล่นได้ดูไพ่แล้วมีทางเลือกดังนี้คือ หมอบให้ทำการคว่ำไพ่ไว้ข้างหน้า ซึ่งผู้เล่นที่หมอบจะไม่ต้องเล่นต่อในตานี้ แต่จะเสียค่าต๋งและเดิมพันที่ได้ลงไว้แต่แรกทางที่สองคือ สู้เฉพาะผู้เล่นคนแรกที่ไม่ได้หมอบจึงจะเลือก ต่อไปคือสู้ได้ให้ทำการวางเดิมพันลงไป อย่างน้อยจำป็นต้องเท่ากับค่าต๋งต่อมาการตามให้ทำการวางเดิมพันจนเท่ากับคนก่อนหน้า ส่วนสุดท้ายการเกทับหลังจากที่ทำการตามแล้วก็สามารถวางเดิมพันเพิ่มได้ โดยผู้เล่นคนถัดไปต้องเลือก หมอบ ตาม หรือ เกทับ เท่านั้น หลังจากนั้นผู้เล่นทุกคนเห็นตรงกันว่าจะไม่ทำการเพิ่มเดิมพันแล้ว แล้วให้เปิดไพ่ผู้เล่นที่ยังไม่หมอบ ผู้ที่มีแต้มสูงสุดจะเป็นฝ่ายชนะได้เดิมพันในกองกลางไปทั้งหมด แต่ถ้าแต้มเท่ากันให้ผู้เล่นที่แต้มเท่ากันเท่านั้น เริ่มเล่นในตาถัดไปโดยใช้กองกลางเดิม จนกว่าจะรู้ผลว่าใครคือผู้ชนะและจะได้เดิมพันทั้งหมด
แต้มบนไพ่ เก้าเกไทย ออนไลน์
- ไพ่แต่ละใบ เรียงจากน้อยไปหามากดังนี้:2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J,Q,K,A
- เรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ:ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ
- ลักษณะไพ่รวมที่เรียงจากน้อยไปหามากดังนี้ แต้ม < สี < เรียง < เซียน < สเตรทฟลัช < ตอง
- สำหรับไพ่ธรรมดาทั่วไป: จะมีค่าตามเลขนั้นๆเช่น 2 = “2” , 3 = “3” แต่ยกเว้น 10 J Q K นับเป็น 0 แต้มที่รวมกันเกินสิบ ให้ตัดเลขหลักสิบออก เหลือแต่เลขหลักหน่วย แต้มที่มีค่ามากที่สุดคือ 9แต้ม ถ้ากรณีที่มีแต้มเหมือนกัน ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ ผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ หากแต้มเท่ากัน ให้ดูสีของไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ เช่น ไพ่ (2 7 8) = 7 แต้ม < ไพ่ (8 10 k) = 8 แต้ม ไพ่ (ข้าวหลามตัด2 โพธิ์แดง4 โพธิ์ดำ8) = 4 แต้ม < ไพ่ (ดอกจิก2 ข้าวหลามตัด3 ดอกจิก9) =4แต้ม , ไพ่ (ดอกจิก 6 ดอกจิก9 ข้าวหลามตัด10) =5แต้ม < ไพ่ (ข้าวหลามตัด 7 ข้าวหลามตัด8 โพธิ์ดำ10) = 5 แต้ม
- ดอกเดียวกัน: แปลว่า ไพ่สามใบเป็นไพ่ที่มีดอกเดียวกัน โดยเรียงจากน้อยไปหามากดังนี้ ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ ซึ่งไพ่ดอกเดียกันจะเหนือกว่าไพ่ที่ได้เก้าแต้ม โดยจะดูจากดอกอย่างเดียว ไม่มีการนับแต้มบนไพ่แต่อย่างใด ถ้ากรณีดอกเดียวกันสู้ดอกเดียวกัน ให้เรียงดอกจากน้อยไปหามากก่อน (โพธิ์ดำมากสุด ดอกจิกน้อยสุด) ถ้าสีเท่ากัน ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ เช่น ดอกจิก (A K 9) < โพธิ์ดำ (3 5 7) หรือข้าวหลามตัด (4 7 8) ข้าวหลามตัด (2 3 9)
- เรียง: แปลว่า ไพ่สามใบในมือมีเลขเรียงกัน เช่น 10,J,Q (Q、K、A มีค่ามากที่สุด รองลงมา คือ A、2、3) ถ้ากรณีเรียงสู้เรียง ให้เทียบแต้มก่อน เช่น (4 5 6) < (7 8 9) หรือ (A 2 3) < (Q K A) ถ้ากรณีที่มีแต้มเรียงเหมือนกัน ให้ดูสีของไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ (โดยเรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ) เช่น (โพธิ์ดำ4 โพธิ์ดำ5 ข้าวหลามตัด6) < (ข้าวหลามตัด4 ข้าวหลามตัด5 โพธิ์ดำ6)
- เซียน: แปลว่า ไพ่สามใบเป็นไพ่ในกลุ่ม J Q K โดยจำแนกเป็น JJQ, QQK หรือ JKK ก็ได้ ถ้ากรณีเซียนสู้เซียน ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ ถ้ากรณีที่มีแต้มเรียงเหมือนกัน ให้ดูสีของไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ (โดยเรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ)
- สเตรทฟลัช: แปลว่า ไพ่สามใบในมือเรียงกันโดยมีดอก(สี)เดียวกัน ถ้ากรณีสเตรทฟลัชสู้สเตรทฟลัช ให้ดูสีของไพ่ก่อน (โดยเรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ) ถ้ากรณีที่มีสีเหมือนกัน ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ ผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ เช่น ข้าวหลามตัด (J Q K) < โพธิ์ดำ (2 3 4) โพธิ์แดง (4 5 6) < โพธิ์แดง (7 8 9)
- ตอง: แปลว่า ไพ่สามใบในมือ เป็นเลขเดียวกันทั้งสามใบ (ตอง 3 มีค่ามากที่สุด รองลงมาคือ ตอง A) ถ้ากรณีตองสู้ตอง ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ ไม่ต้องดูสีของไพ่ เช่น 777
- เซียนสู้เซียน เรียงสู้เรียง ตองสู้ตอง ในถ้ากรณีที่มีค่าเท่ากันให้วัดกันว่า มีตัวไหนใหญ่สุด(ตัวไหนคุม) ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ ผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ (Aมากสุด 2น้อยสุด)ถ้าเลขเท่ากัน โดยเรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ ดอกจิก < ข้าวหลามตัด < โพธิ์แดง < โพธิ์ดำ
- ดอกเดียวกันสู้ดอกเดียวกัน สเตรทฟลัชสู้สเตรทฟลัช ให้เรียงดอกจากน้อยไปหามากก่อน (โพธิ์ดำมากสุด ดอกจิกน้อยสุด) ถ้าสีเท่ากัน ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ
- ไพ่ธรรมดาที่มีแต้มเท่ากัน ให้ดูไพ่ใบที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆ ถ้าแต้มเท่ากันอีก ให้ดูสีของไพ่ที่มีค่าสูง